การจัดสภาพโรงงานให้ปลอดภัย (ENVIRONMENT AND PLANT LAYOUT)

การจัดสภาพโรงงานให้ปลอดภัย
(ENVIRONMENT AND PLANT LAYOUT)

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับผังโรงงาน

  • ทางเดินกว้างขวางเพียงพอ
  • การระบายอากาศและการขจัดกลิ่นควันและไอพิษ
  • ทางออกฉุกเฉินทางหนีไฟ 
  • ระบบป้องกันอัคคีภัยและอุปกรณ์ดับเพลิง
  • ความดังของเสียงจากเครื่องจักรกล
  • ความร้อนจากเครื่องจักรกล หรือ แหล่งความร้อน
  • แสงสว่างที่เหมาะสม
  • การป้องกันระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม
  • เนื้อที่อำนวยความสะดวกแก่แก่งานซ่อมบำรุง
  • สภาพแวดล้อมทางความรู้สึกของคนงาน

ข้อแนะนำในการพิจารณาวางผังโรงงานเครื่องจักรกล

  • จัดวางเครื่องจักรกลให้ไกล้แหล่งแสงสว่างธรรมชาติ
  • จัดเครื่องจักรกลที่มีขนาดใหญ่ไว้ใกล้ทางเข้าออ
  • จัดเครื่องจักรขนาดใหญ่ไว้ในที่ที่รอก หรือ เครนเข้าไปถึงเพื่อสะดวกต่อการทำงาน
  • จัดเครื่องเจียรไน ในที่ที่ฝุ่น หรือ ประกายไฟไม่แผ่ขยายไปถึง และควรตั้งใกล้ เครื่องกลึง เครื่องเจาะ
  • จัดวางเครื่องมือ อุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ รวมทั้งชิ้นส่วนไว้ใกล้เครื่องจักรแต่ละเครื่อง
  • แท่นเลื่อยไฟฟ้าควรเก็บไว้หน้าสโตร์เก็บเหล็กเส้นควรมีที่ว่างมากพอกับการขนย้ายเหล็กท่อนที่มีความ ยาว มากกว่า 6เมตร
  • เครื่องจักรต้องมั่นคงและยึดแน่นกับพื้น
  • สวิตช์ควบคุมการทำงานควรอยู่ในที่ที่ปลอดภัยจากการยืนพิงหรือ กวาดมือไปสัมผัสโดยบังเอิญ สวิตช์ เมนใหญ่ที่ตัดไฟจากสายเมน ควรติดตั้งในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน
  • สายไฟที่ต่อมา จากเหนือศีรษะเพื่อลงยังแท่นเครื่องต้องทิ้งระยะห่างอย่างน้อย 7 ฟุต ก่อนหักมุม เพื่อ เดิน ใน แนวระดับ
  • โต๊ะปฏิบัติงานตะไบควรจัดวางไว้ให้สามารถจับชิ้นงานยาว ๆได้ โดยไม่ขัดขวางการทำงานของคนอื่น
  • บริเวณใต้โต๊ะควรปล่อยว่างโล่งไม่ควรเป็นที่จัดเก็บเศษวัสดุเศษชิ้นงานที่ไม่ใช้แล้ว 
  • จัดวางเครื่องจักรดังนี้
    • รถยก หรือ รถเข็นสามารถเข้าใกล้ด้านใดด้านหนึ่งได้ เพื่อประโยชน์ในการขนถ่ายชิ้นส่วนงานซ่อมบำรุง
    • มีช่องว่าง รอบ ๆตัวเครื่องเพียงพอ สำหรับการถอดซ่อมบำรุงต่าง ๆ
    • มีที่ว่างให้คนงานได้ทำงานสะดวกสบาย
    • มีช่องว่างที่เพียงพอต่อการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนของเครื่องจักรที่เคลื่อนตัวไปถึง

ขนาดเสนอแนะสำหรับโต๊ะทำงาน

รายละเอียดสำคัญ ชาย หญิง
ความสูงของที่นั่งวัดจากพื้น 45.4 37.4
ช่วงกว้างของที่นั่ง 46.8 37.4
ความสูงของหัวเข่าวัดจากพื้น 52.2 47.1
ช่วงจากหัวไหล่จนถึงที่เท้าแขน 36.3 33.7
ความยาวปลายนิ้วมือถึงปลายข้อศอก 47.5 43.8

ขนาดเสนอแนะสำหรับทางเดิน

  • ทำให้ทางเดินทุกแนวเป็นเส้นตรง
  • ระดับของทางเดินควรเท่ากันและเรียบ ในกรณีต่างระดับควรเชื่อมกันและเรียบ
  • ทำให้ทางเดินอยู่ตรงกลางใช้ได้ทั้งสองข้างของทางเดิน
  • ทำให้ทางเดินที่พบกันข้ามกันเป็นมุมฉาก
  • ทำให้มีความกว้างเหมาะสม
  • ทำให้ทางเดินมีขนาดความกว้างหลายขนาดตามปริมาณการใช้งาน

ขนาดออกแบบมาตรฐานของบริเวณทำงาน

ลักษณะงาน ขนาดของโต๊ะทำงาน
นั่งทำงาน นั่งสลับยืน ยืนทำงาน
พื้นที่ซึ่งมือทำงานไปถึงจากรัศมีไหล่ 15 15 18
พื้นที่ทำงานสูงสุดโดยไม่เกิดความล้าจนเกินไป รัศมีในแนวระดับวัดจากข้อศอก 24 30 40
รัศมีในแนวดิ่งวัดจากข้อศอก 24 34 56
ระยะห่างระหว่างคนงาน 30 30-36 36
ความสูงของโต๊ะทำงานสำหรับหญิง 28-30 36-38 38
ความสูงของโต๊ะทำงานสำหรับชาย 30 40-42 42
ความสูงของม้านั่งวัดจากพื้น 18 28
ที่เหยียบด้วยเท้าวัดจากพื้น 1-2 8 1-2
ที่วางเท้าวัดจากพื้น สำหรับหญิง 1-2 10 1-2
ที่วางเท้าวัดจากพื้น สำหรับชาย 1-2 8 1-2
ระดับสายตาวัดจากพื้น ชาย 46 56 64
ระดับสายตาวัดจากพื้น หญิง 44 53 50
ความลึกของตู๊เก็บของระดับสายตา ชาย 26
ความลึกของตู๊เก็บของระดับสายตา หญิง 22

ขนาดความกว้างของทาเดินในโรงงานขึ้นอยู่กับ

  • ชนิดของสิ่งที่ขนส่งผ่าน อาทิ คน รถเข็น รถลาก วัสดุ หรือเครื่องจักรกล
  • ความถี่ในการใช้งาน ปริมาณการขนส่งที่ผ่านเส้นทางนั้น
  • ความเร็วในการขนส่ง
  • แบบของการจราจรเดินทางเดียว หรือเดิน สอง ทางแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต

เสนอแนะขนาดความกว้างทางเดินในโรงงาน


ลักษณะการใช้งาน
ขนาดความกว้าง
คนเดินมือเปล่าสองคนสวนกันได้ ไม่ต่ำกว่า 30 นิ้ว
สำหรับรถเข็น 2 ล้อเดินทางเดียว ไม่ต่ำกว่า 30 นิ้ว
สำหรับรถเข็น 4 ล้อ ในการขนส่งวัสดุคันเดียว ความกว้างตัวรถ + 20นิ้ว
สำหรับรถเข็น 4 ล้อ ในการขนส่งวัสดุสวนทางได้ ความกว้างตัวรถทั้ง2คัน + 36 นิ้ว
รถลากด้วยแรงคนที่มีแผ่นรองวัสดุ 5 – 8 ฟุต
รถโฟล์คลิฟท์ขนาด 1 ตัน 8 – 10 ฟุต
รถโฟล์คลิฟท์ขนาด 2 ตัน 10 – 12 ฟุต
รถโฟล์คลิฟท์ขนาด 3 ตัน 12 – 14 ฟุต

ขนาดสำหรับทางลาดและบันไดที่เหมาะสม
มุมลาดเอียงมีค่าที่เหมาะสมดังนี้

  • ทางลาด 0 – 15 ํ กับพื้นระดับ
  • บันไดถาวร 30 -35 ํ กับพื้นระดับ
  • บันไดพาด 75 -90 ํ กับพื้นระดับ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีค่าที่ควรหลีกเลี่ยงดังนี้

  • สำหรับบันไดพาด ไม่ควรทำมุมกับแนวระดับน้อยกว่า 50 ํ
  • สำหรับพื้นลาด ไม่ควรทำมุมกับแนวระดับมากกว่า 20 ํ

การออกแบบระบบแสงสว่าง

หลอดไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง มี 3 ชนิด

  • หลอดใช้ไส้ (Incandescent Lamp) เป็นไส้หลอดทังเสตน มี 2 แบบกระเปาะแก้วใสและ กระเปาะแก้วสีขาว และสีต่าง ๆ ประสิทธิภาพต่ำกว่าหลอดแก้วใส มีอายุการใช้งานทั่วไป 1000 ชั่วโมงยกเว้นบางชนิด เช่น หลอด Quartz Iodine มีอายุ 2000 ชั่วโมง ยังจำแนกได้อีกหลายชนิด
  • หลอดใช้สารเรืองแสง (Fluorescent Lamp) อาศัยการเรืองแสงของสารที่ฉาบไว้รอบ ๆผิว ในของหลอด แก้วห่อ หุ้ม ซึ่งเมื่อกระทบกับรังสีอุลตราไวโอเลตจาก ไอปรอทภายในแก้ว จะเรืองแสงออกมามีสีขาว หรือ ใกล้เคียง กับแสงแดด มีประสิทธิภาพดีกว่าหลอดใช้ไส้ ถึง 4 เท่า อายุการใช้งานดีกว่าถึง 10 เท่า เหมาะจะ ใช้ในบริเวณกว้าง
  • หลอดไอโลหะ (Mercury or Sodium Lamp) ปัจจุบันนิยมใช้กันมากลักษณะคล้ายหลอดฟูออเรสเซ็นต์ แต่ทำงานที่ความดันสูงกว่าให้แสงสว่างมากกว่า สีจะเป็นสีเหลือง หรือเขียวขาดสีแดง ปัจจุบันได้ปรับปรุงโดย การเติม สารที่ทำให้ สีที่ขาดเปล่งออกมาให้ครบ

กรณีวิเคราะห์การออกแบบระบบแสงสว่าง
1.แสงกระจายและเกิดเงา มีสาเหตุมาจาก

  • ใช้ไฟแบบหลอกมีไส้มาให้แสงสว่างทั่วไป ทำให้สิ้นเปลือง
  • ตำแหน่งจัดวางทำให้เกิดเงาบังบนชิ้นงาน

ข้อแก้ไข – ใช้หลอดฟูออเรสเซ็นต์ / ใช้โคมไฟติดตั้วเฉพาะจุด
2. เกิดแสงกระจายเข้าตา มีสาเหตุมาจาก

  • ใช้หลอดไฟกลมให้แสงสว่าง โดยไม่มีโคมไฟกั้น ทำให้แสงเข้าตาคน

ข้อแก้ไข – เลือกใช้หลอดฟูออเรสเซ็นท์ ชนิดที่เป็นโคมไฟชุดละ 2 หลอดให้แสงสว่างแทน

3. เกิดเงาบัง มีสาเหตุจาก

  • วางหลอดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมเกิดเงาบัง เกิดความผิดพลาดในการทำงาน สายตาเมื่อยล้าง่าย

ข้อแก้ไข – เปลี่ยนโคมไฟใหม่ให้มีแสงสว่างกระจายในรัศมีกว้าง และวางเหนือศรีษะ

4. เกิดความแตกต่างมาก มีสาเหตุมาจาก

  • บริเวณรอบ ๆชิ้นงานเกิดความแตกต่างกับชิ้นงาน มีผลต่อการรับแสงของประ สาทตา มีสาเหตุมาจาก

ข้อแก้ไข – เลือกใช้สีให้เข้ากับชิ้นงานในบริเวณรอบ ๆชิ้นงาน

5. เกิดเงาสะท้อนและแสงจ้า มีสาเหตุมาจาก

  • วางตำแหน่งของหลอดไฟ และ โคมไฟไม่เหมาะสม แสงสว่างจ้า กระจายสูงเกินไป

ข้อแก้ไข – เปลี่ยนเป็นชนิดซ่อนหลอดไฟ ควรเป็นโคม 2 ชั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสโดน โคม ชั้นนอกที่ร้อน

การออกแบบระบบระบายอากาศ
พฤติกรรมของปอดและหัวใจ ของคนงานที่ทำงานลักษณะต่าง ๆ


สภาพการทำงาน
ออกซิเจนที่ต้องการ
ลิตร / นาที
ปริมาณลมที่ผ่านปอด
ลิตร / นาที
% ออกซิเจนที่ดูดซึม อัตราหัวใจเต้น
ครั้ง / นาที
พักผ่อน 0.25 – 0.3 6 – 7 20 60 – 70
ทำงานเบาๆ 0.5 – 1.0 11 – 12 22 70 – 100
ทำงานหนักปานกลาง 1.0 – 1.5 20 – 31 23 100 – 125
ทำงานหนัก 1.5 – 2.0 31 – 43 23 125 – 150
ทำงานหนักมาก 2.0 – 2.5 43 – 56 22 150 – 175
เล่นกีฬาที่หนัก ๆ 2.5 – 4.0 60 – 100 20 เกินกว่า 175

ค่าความเป็นพิษของสาร


ค่าความเป็นพิษ
ค่า TLV
ppm mg./ ลูกบาศก์เมตร
1. เป็นพิษเล็กน้อย เกิน 500 เกิน 0.5
2. เป็นพิษปานกลาง 101 – 500 0.001- 0.5
3. เป็นพิษมาก 0 – 101 0 – 0.001

ขอบคุณบทความจาก สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) www.shawpat.or.th



Protected by Copyscape


%d bloggers like this: